การทำประกันสุขภาพ ถือเป็นการวางแผนการเงินอย่างหนึ่งในการเตรียมพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ยิ่งในสถานการณ์ปัจุบัน ยิ่งถือว่าประกันสุขภาพมีความจำเป็น เราจึงต้องวางแผน และเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนมือใหม่ที่เริ่มต้นทำงาน ฟรีแลนซ์ พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ ที่มีงบในกระเป๋าจำกัด แต่ยังอยากมีประกันสุขภาพดีๆ ฉบับเริ่มต้นติดตัวไว้ แบบครอบคลุม แม้ป่วยก็ยังมีค่ารักษา จากไปก็ยังมีเงินก้อน มาดูกันว่าเรื่องไหนบ้างที่เราควรนำมาพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ก่อนเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะสมกับตัวเอง
ก่อนอื่นต้องตรวจสอบสิทธิ์ขั้นพื้นฐานก่อนว่าเรามีสิทธิ์ บัตรทอง 30 บาท ประกันสังคม หรือสิทธิ์ตามระบบข้าราชการ เพราะตามสิทธิ์สวัสดิการขั้นพื้นฐานทุกคนจะต้องมีสวัสดิการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเราสามารถตรวจสอบว่าตัวเองมีสวัสดิการอะไร โรงพยาบาลไหน ได้ที่ http://www.nhso.go.th แค่ใส่เลขประจำตัวประชาชนเข้าไป หรือจะโทรสอบถามที่ สายด่วน สปสช. 1330 เพื่อจะได้ทราบเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกประกันสุขภาพเพิ่มเติม
ในส่วนของประกันสุขภาพที่ได้จากออฟฟิต หรือที่เราเรียกว่า ประกันกลุ่ม นั้น ความคุ้มครองจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับที่ทำงานแต่ละที่แตกต่างกันออกไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน ซึ่งอาจไม่เพียงพอ และที่สำคัญสวัสดิการนี้เป็นสวัสดิการติดโต๊ะไม่ใช่ติดตัว หากวันใดที่เราออกจากงาน ย้ายงาน หรือเปลี่ยนมาทำฟรีแลนซ์ สวัสดิการนี้ก็ไม่ได้ตามติดตัวเราไปด้วย
ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมทุกการรักษา อย่าง ประกันสุขภาพ แฮปปี้ เฮลธ์ แคร์ จะเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากมีประกันสุขภาพ หรือสวัสดิการที่มีไม่เพียงพอ เพราะ แฮปปี้ เฮลธ์ แคร์ จะให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ เช่น ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD), ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD), ค่ายารักษา, ค่าห้องพัก และค่าอาหาร, ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ, ค่าผ่าตัด, ค่าแพทย์ ครบในกรมธรรม์เดียว แถมเบี้ยเริ่มต้นเพียงวันละ 13 บาท (เบี้ยแผนต่ำสุดกรณีชำระแบบรายปี เพศชาย อายุ 20 ปี) รับความคุ้มครอง OPD สูงสุดถึง 30 ครั้ง ต่อปีสัญญาเพิ่มเติม แถมรับเพิ่ม 2 เท่า กรณี การตรวจเอ็กซเรย์และแล็บ * รวมถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19**
นอกจากดูเรื่องสวัสดิการต่างๆ ที่เรามีแล้ว การประเมินความเสี่ยงต่อการเป็นโรค ที่อาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรม ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา เพราะหลักการวางแผนการเงิน กรณีที่เหมาะกับการทำประกันที่สุดคือ ความน่าจะเป็นในการเกิดโรค ที่ถึงแม้จะน้อยแต่หากป่วยจะส่งผลกระทบมาก กรณีเจ็บป่วยทั่วไป ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่หากเกิดเป็นโรคร้ายแรง หรือโรคที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมอง ไต เบาหวาน สิ่งเหล่านี้จะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมาย บางโรคก็ไม่หายขาด จำเป็นต้องรักษาไปตลอดชีวิต
เหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ที่พอจะให้เห็นภาพว่าจริงๆ แล้วควรเลือกประกันสุขภาพแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด ลองคลิกที่ ประกันสุขภาพ แฮปปี้ เฮลธ์ แคร์ และ ประกันสุขภาพปลดล็อค สบายกระเป๋า เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือกรอกรายละเอียดด้านล้างนี้ เพื่อรับคำปรึกษา และวางแผนเลือกประกันสุขภาพ ตามความต้องการ และงบประมาณ
**ความคุ้มครองต้องมีผลบังคับ ณ วันที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาฯ ทั้งนี้ เงื่อนไขการจ่ายผลประโยชน์เป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยพิจารณาคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ตามความจำเป็นทางการแพทย์ตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุข
การตรวจเอ็กซเรย์ และแล็บ หมายถึง การตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยมีตัวอย่างตามรายการดังต่อไปนี้การตรวจ MRI, การตรวจอัลตร้าซาวน์, การ X-Ray, CT scan, การตรวจคลื่นไฟฟ้า กล้ามเนื้อ (EMG), การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG), การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG), การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (EST) และการตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (PET scan), การตรวจ RT-PCR, การตรวจในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวกับการรักษาโรคนั้น ตามคำแนะนำและเห็นชอบโดยแพทย์